ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษาญี่ปุ่น"
Sasakubo1717 (คุย | ส่วนร่วม) |
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล โรบอต: เก็บกวาด |
||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
=== ฮิระกะนะ (ひらがな) === |
=== ฮิระกะนะ (ひらがな) === |
||
ใช้เขียนคำของญี่ปุ่นเอง มีทั้งหมดดังต่อไปนี้ |
ใช้เขียนคำของญี่ปุ่นเอง มีทั้งหมดดังต่อไปนี้ |
||
⚫ | |||
⚫ | |||
| '''วรรค อะ''' || あ(อะ) || い(อิ) || う(อุ) || え(เอะ) || お(โอะ) |
| '''วรรค อะ''' || あ(อะ) || い(อิ) || う(อุ) || え(เอะ) || お(โอะ) |
||
|- |
|- |
||
| '''วรรค คะ''' || か(คะ) || き(คิ) || く(คุ) || け(เคะ) || こ(โคะ) |
| '''วรรค คะ''' || か(คะ) || き(คิ) || く(คุ) || け(เคะ) || こ(โคะ) |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 24: | บรรทัดที่ 26: | ||
| '''วรรค มะ''' || ま(มะ) || み(มิ) || む(มุ) || め(เมะ) || も(โมะ) |
| '''วรรค มะ''' || ま(มะ) || み(มิ) || む(มุ) || め(เมะ) || も(โมะ) |
||
|- |
|- |
||
| '''วรรค ยะ''' || や(ยะ) || || ゆ(ยุ) || || よ(โยะ) |
| '''วรรค ยะ''' || や(ยะ) || || ゆ(ยุ) || || よ(โยะ) |
||
|- |
|- |
||
| '''วรรค ระ''' || ら(ระ) || り(ริ) || る(รุ) || れ(เระ) || ろ(โระ) |
| '''วรรค ระ''' || ら(ระ) || り(ริ) || る(รุ) || れ(เระ) || ろ(โระ) |
||
|- |
|- |
||
| |
| || わ(วะ) || を(โอะ) || ん(อึน) || || |
||
|} |
|} |
||
=== คะตะกะนะ (かたかな) === |
=== คะตะกะนะ (かたかな) === |
||
ใช้เขียนคำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ และ ใช้เมื่อต้องการเน้นคำพูด |
ใช้เขียนคำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ และ ใช้เมื่อต้องการเน้นคำพูด |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
| '''วรรค อะ''' || ア(อะ) || イ(อิ) || ウ(อุ) || エ(เอะ) || オ(โอะ) |
| '''วรรค อะ''' || ア(อะ) || イ(อิ) || ウ(อุ) || エ(เอะ) || オ(โอะ) |
||
|- |
|- |
||
| '''วรรค คะ''' || カ(คะ) || キ(คิ) || ク(คุ) || ケ(เคะ) || コ(โคะ) |
| '''วรรค คะ''' || カ(คะ) || キ(คิ) || ク(คุ) || ケ(เคะ) || コ(โคะ) |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 48: | บรรทัดที่ 50: | ||
| '''วรรค มะ''' || マ(มะ) || ミ(มิ) || ム(มุ) || メ(เมะ) || モ(โมะ) |
| '''วรรค มะ''' || マ(มะ) || ミ(มิ) || ム(มุ) || メ(เมะ) || モ(โมะ) |
||
|- |
|- |
||
| '''วรรค ยะ''' || ヤ(ยะ) || || ユ(ยุ) || || ヨ(โยะ) |
| '''วรรค ยะ''' || ヤ(ยะ) || || ユ(ยุ) || || ヨ(โยะ) |
||
|- |
|- |
||
| '''วรรค ระ''' || ラ(ระ) || リ(ริ) || ル(รุ) || レ(เระ) || ロ(โระ) |
| '''วรรค ระ''' || ラ(ระ) || リ(ริ) || ル(รุ) || レ(เระ) || ロ(โระ) |
||
|- |
|- |
||
| |
| || ワ(วะ) || ヲ(โอะ) || ン(อึง หรือ อุง) || || |
||
|} |
|} |
||
บรรทัดที่ 61: | บรรทัดที่ 63: | ||
การออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นแม้จะมีความหมายและเขียนเหมือนกันแต่การออกเสียงมีลักษณะที่แตกต่างกันออกขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ |
การออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นแม้จะมีความหมายและเขียนเหมือนกันแต่การออกเสียงมีลักษณะที่แตกต่างกันออกขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ |
||
; อักษรในกลุ่ม か |
; อักษรในกลุ่ม か |
||
ออกเสียงเป็น ค หากตัวอยู่ในพยางค์แรกของประโยค และออกเสียงเป็น ก หากอยู่ในพยางค์หลัง |
ออกเสียงเป็น ค หากตัวอยู่ในพยางค์แรกของประโยค และออกเสียงเป็น ก หากอยู่ในพยางค์หลัง |
||
== ไวยากรณ์ == |
== ไวยากรณ์ == |
||
ประโยคภาษาญี่ปุ่นจะเรียงลำดับเป็น ประธาน-กรรม-กริยา |
ประโยคภาษาญี่ปุ่นจะเรียงลำดับเป็น ประธาน-กรรม-กริยา |
||
บรรทัดที่ 72: | บรรทัดที่ 74: | ||
ก่อนจะเข้าสู่บทเรียน คุณควรจดจำศัพท์ 3 คำในตารางข้างล่างนี้ ซึ่งคุณจะได้พบเจอบ่อยในบทเรียนต่อๆไป คุณ<u>ไม่จำเป็น</u>ต้องรู้วิธีอ่านอักษรญี่ปุ่นในตอนนี้ แต่ขอให้จดจำ"คำอ่าน"และ"ความหมาย"ให้ขึ้นใจ |
ก่อนจะเข้าสู่บทเรียน คุณควรจดจำศัพท์ 3 คำในตารางข้างล่างนี้ ซึ่งคุณจะได้พบเจอบ่อยในบทเรียนต่อๆไป คุณ<u>ไม่จำเป็น</u>ต้องรู้วิธีอ่านอักษรญี่ปุ่นในตอนนี้ แต่ขอให้จดจำ"คำอ่าน"และ"ความหมาย"ให้ขึ้นใจ |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 84: | บรรทัดที่ 86: | ||
ตารางข้างล่างนี้เป็นชื่อคน คุณไม่จำเป็นต้องจำ ขอให้รู้ว่าคำเหล่านี้เป็นเพียงชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายใดๆ |
ตารางข้างล่างนี้เป็นชื่อคน คุณไม่จำเป็นต้องจำ ขอให้รู้ว่าคำเหล่านี้เป็นเพียงชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายใดๆ |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน |
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 94: | บรรทัดที่ 96: | ||
=== โครงประโยคพื้นฐาน === |
=== โครงประโยคพื้นฐาน === |
||
รูปประโยคพื้นฐานในภาษาญี่ปุ่นประกอบด้วย "ส่วนหัวเรื่อง" และ "ส่วนแสดง" |
รูปประโยคพื้นฐานในภาษาญี่ปุ่นประกอบด้วย "ส่วนหัวเรื่อง" และ "ส่วนแสดง" |
||
*'''ส่วนหัวเรื่อง''' จะต้องลงท้ายด้วยคำว่า は (wa อ่านว่า วะ) เสมอ |
* '''ส่วนหัวเรื่อง''' จะต้องลงท้ายด้วยคำว่า は (wa อ่านว่า วะ) เสมอ |
||
*'''ส่วนแสดง''' จะต้องวาง คำกริยา ไว้<u>ท้าย</u>ประโยค |
* '''ส่วนแสดง''' จะต้องวาง คำกริยา ไว้<u>ท้าย</u>ประโยค |
||
====ตัวอย่าง 1==== |
==== ตัวอย่าง 1 ==== |
||
:watashi wa tanaka desu |
: watashi wa tanaka desu |
||
:วะตะชิ วะ ทะนะกะ เดะสึ |
: วะตะชิ วะ ทะนะกะ เดะสึ |
||
:=ฉันคือทะนะกะ |
: =ฉันคือทะนะกะ |
||
*'''ส่วนหัวเรื่อง'''ของประโยคนี้ก็คือ "'''ฉัน'''" ดังนั้น จึงเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า watashi wa (วะตะชิ + วะ) |
* '''ส่วนหัวเรื่อง'''ของประโยคนี้ก็คือ "'''ฉัน'''" ดังนั้น จึงเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า watashi wa (วะตะชิ + วะ) |
||
*'''ส่วนแสดง'''ของประโยคนี้ก็คือ "'''คือ + ทะนะกะ'''" ดังนั้น จึงเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า tanaka desu (ทะนะกะ + เดะสึ) |
* '''ส่วนแสดง'''ของประโยคนี้ก็คือ "'''คือ + ทะนะกะ'''" ดังนั้น จึงเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า tanaka desu (ทะนะกะ + เดะสึ) |
||
====ตัวอย่าง 2==== |
==== ตัวอย่าง 2 ==== |
||
:anata wa nakamura desu ka |
: anata wa nakamura desu ka |
||
:อะนะตะ วะ นะกะมุระ เดะสึ กะ |
: อะนะตะ วะ นะกะมุระ เดะสึ กะ |
||
:=คุณคือนะกะมุระใช่มั๊ย |
: =คุณคือนะกะมุระใช่มั๊ย |
||
*'''ส่วนหัวเรื่อง''' คือ "'''คุณ'''" เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า anata wa (อะนะตะ + วะ) |
* '''ส่วนหัวเรื่อง''' คือ "'''คุณ'''" เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า anata wa (อะนะตะ + วะ) |
||
*'''ส่วนแสดง''' คือ "'''คือ + นะกะมุระ'''" เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า nakamura desu (นะกามูระ + เดสึ) |
* '''ส่วนแสดง''' คือ "'''คือ + นะกะมุระ'''" เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า nakamura desu (นะกามูระ + เดสึ) |
||
====ตัวอย่าง 3==== |
==== ตัวอย่าง 3 ==== |
||
จำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
จำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 122: | บรรทัดที่ 124: | ||
|} |
|} |
||
:nakamura wa kirei desu |
: nakamura wa kirei desu |
||
:นากามูระ วะ คิเร เดสึ |
: นากามูระ วะ คิเร เดสึ |
||
:=นากามูระสวย |
: =นากามูระสวย |
||
*'''ส่วนหัวเรื่อง''' คือ นากามูระ เขียนเป็นภาษา |
* '''ส่วนหัวเรื่อง''' คือ นากามูระ เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า nakamura wa (นากามูระ + วะ) |
||
*'''ส่วนแสดง''' คือ สวย เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า kirei desu (คิเร + เดสึ) |
* '''ส่วนแสดง''' คือ สวย เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า kirei desu (คิเร + เดสึ) |
||
=== คำช่วย === |
=== คำช่วย === |
||
บรรทัดที่ 136: | บรรทัดที่ 138: | ||
นอกจากนี้ ภาษาญี่ปุ่นยังมีคำช่วยอื่นๆอีก เช่น を (o อ่านว่า โอะ) เป็น'''คำช่วยที่ใช้บอกกรรม''' ดังนั้น คำที่อยู่หน้าคำว่า o จะเป็นกรรมของประโยคเสมอ |
นอกจากนี้ ภาษาญี่ปุ่นยังมีคำช่วยอื่นๆอีก เช่น を (o อ่านว่า โอะ) เป็น'''คำช่วยที่ใช้บอกกรรม''' ดังนั้น คำที่อยู่หน้าคำว่า o จะเป็นกรรมของประโยคเสมอ |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! คำช่วย !! คำอ่าน !! หน้าที่ |
! คำช่วย !! คำอ่าน !! หน้าที่ |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 147: | บรรทัดที่ 149: | ||
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 155: | บรรทัดที่ 157: | ||
|} |
|} |
||
:"ฉันอ่านหนังสือ" |
: "ฉันอ่านหนังสือ" |
||
:watashi wa hon o yomu |
: watashi wa hon o yomu |
||
* ส่วนหัวเรื่องคือ '''ฉัน''' = watashi wa (วะตะชิ วะ). |
* ส่วนหัวเรื่องคือ '''ฉัน''' = watashi wa (วะตะชิ วะ). |
||
**เราใช้คำช่วย "วะ" วางหลังคำว่า "วะตะชิ" เพื่อบอกว่า วะตะชิ เป็นหัวเรื่อง |
** เราใช้คำช่วย "วะ" วางหลังคำว่า "วะตะชิ" เพื่อบอกว่า วะตะชิ เป็นหัวเรื่อง |
||
* ส่วนแสดงคือ '''อ่านหนังสือ''' = hon o yomimasu (ฮง โอะ โยมิมัส) |
* ส่วนแสดงคือ '''อ่านหนังสือ''' = hon o yomimasu (ฮง โอะ โยมิมัส) |
||
**เราใช้คำช่วย "โอะ" วางหลังคำว่า"ฮง" เพื่อบอกว่า ฮง เป็นกรรม |
** เราใช้คำช่วย "โอะ" วางหลังคำว่า"ฮง" เพื่อบอกว่า ฮง เป็นกรรม |
||
==== ตัวอย่าง 5 ==== |
==== ตัวอย่าง 5 ==== |
||
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 174: | บรรทัดที่ 176: | ||
|} |
|} |
||
:"ทานากะกินข้าวห่อสาหร่าย" |
: "ทานากะกินข้าวห่อสาหร่าย" |
||
:tanaka wa sushi o tabemasu |
: tanaka wa sushi o tabemasu |
||
:ทานากะ วะ ซูชิ โอะ ทาเบมัส |
: ทานากะ วะ ซูชิ โอะ ทาเบมัส |
||
==== ตัวอย่าง 6 ==== |
==== ตัวอย่าง 6 ==== |
||
มาดูตัวอย่างของคำช่วยอีกคำหนึ่ง |
มาดูตัวอย่างของคำช่วยอีกคำหนึ่ง |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! คำช่วย !! คำอ่าน !! หน้าที่ |
! คำช่วย !! คำอ่าน !! หน้าที่ |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 189: | บรรทัดที่ 191: | ||
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
! ภาษาญี่ปุ่น !! คำอ่าน !! ความหมาย |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 197: | บรรทัดที่ 199: | ||
|} |
|} |
||
:"ฉันไปโตเกียว" |
: "ฉันไปโตเกียว" |
||
:watashi wa toukyou e ikimasu |
: watashi wa toukyou e ikimasu |
||
:วะตะชิ วะ โตเกียว เอะ อิคิมัส |
: วะตะชิ วะ โตเกียว เอะ อิคิมัส |
||
*เราใช้ คำช่วย"เอะ" วางหลังคำว่า"โตเกียว" เพื่อบอกว่า โตเกียว เป็นจุดหมายปลายทาง |
* เราใช้ คำช่วย"เอะ" วางหลังคำว่า"โตเกียว" เพื่อบอกว่า โตเกียว เป็นจุดหมายปลายทาง |
||
==== ตัวอย่าง 7 ==== |
==== ตัวอย่าง 7 ==== |
||
มาดูตัวอย่างของคำช่วยอีกคำหนึ่ง |
มาดูตัวอย่างของคำช่วยอีกคำหนึ่ง |
||
{|{{ตารางสวย}} |
{|{{ตารางสวย}} |
||
! คำช่วย !! คำอ่าน !! หน้าที่ |
! คำช่วย !! คำอ่าน !! หน้าที่ |
||
|- |
|- |
||
บรรทัดที่ 212: | บรรทัดที่ 214: | ||
|} |
|} |
||
:"ฉันอ่านหนังสือที่โตเกียว" |
: "ฉันอ่านหนังสือที่โตเกียว" |
||
私は東京で本を読みます |
私は東京で本を読みます |
||
:watashi wa toukyou de hon o yomimasu |
: watashi wa toukyou de hon o yomimasu |
||
:วะตะชิ วะ โตเกียว เดะ ฮง โอะ โยะมิมะสึ |
: วะตะชิ วะ โตเกียว เดะ ฮง โอะ โยะมิมะสึ |
||
* คำช่วย "เดะ" ระบุว่า"โตเกียว" เป็นสถานที่ที่เกิดการกระทำขึ้น (การอ่าน) |
* คำช่วย "เดะ" ระบุว่า"โตเกียว" เป็นสถานที่ที่เกิดการกระทำขึ้น (การอ่าน) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:30, 14 มกราคม 2556
ตัวอักษร
ตัวอักษรที่ใช้ในภาษาญี่ปุ่นปัจจุบันมี 3 กลุ่มคือ
- ฮิระกะนะ (ひらがな)
- คะตะกะนะ (かたかな)
- คันจิ (漢字)
ฮิระกะนะ (ひらがな)
ใช้เขียนคำของญี่ปุ่นเอง มีทั้งหมดดังต่อไปนี้
วรรค อะ | あ(อะ) | い(อิ) | う(อุ) | え(เอะ) | お(โอะ) |
วรรค คะ | か(คะ) | き(คิ) | く(คุ) | け(เคะ) | こ(โคะ) |
วรรค ซะ | さ(ซะ) | し(ชิ) | す(ซุ) | せ(เซะ) | そ(โซะ) |
วรรค ทะ | た(ทะ) | ち(จิ) | つ(ทซุ) | て(เทะ) | と(โทะ) |
วรรค นะ | な(นะ) | に(นิ) | ぬ(นุ) | ね(เนะ) | の(โนะ) |
วรรค ฮะ | は(ฮะ) | ひ(ฮิ) | ふ(ฟุ) | へ(เฮะ) | ほ(โฮะ) |
วรรค มะ | ま(มะ) | み(มิ) | む(มุ) | め(เมะ) | も(โมะ) |
วรรค ยะ | や(ยะ) | ゆ(ยุ) | よ(โยะ) | ||
วรรค ระ | ら(ระ) | り(ริ) | る(รุ) | れ(เระ) | ろ(โระ) |
わ(วะ) | を(โอะ) | ん(อึน) |
คะตะกะนะ (かたかな)
ใช้เขียนคำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศ และ ใช้เมื่อต้องการเน้นคำพูด
วรรค อะ | ア(อะ) | イ(อิ) | ウ(อุ) | エ(เอะ) | オ(โอะ) |
วรรค คะ | カ(คะ) | キ(คิ) | ク(คุ) | ケ(เคะ) | コ(โคะ) |
วรรค ซะ | サ(ซะ) | シ(ชิ) | ス(ซุ) | セ(เซะ) | ソ(โซะ) |
วรรค ตะ | タ(ตะ) | チ(จิ) | ツ(ทซุ) | テ(เตะ) | ト(โตะ) |
วรรค นะ | ナ(นะ) | ニ(นิ) | ヌ(นุ) | ネ(เนะ) | ノ(โนะ) |
วรรค ฮะ | ハ(ฮะ) | ヒ(ฮิ) | フ(ฟุ) | ヘ(เฮะ) | ホ(โฮะ) |
วรรค มะ | マ(มะ) | ミ(มิ) | ム(มุ) | メ(เมะ) | モ(โมะ) |
วรรค ยะ | ヤ(ยะ) | ユ(ยุ) | ヨ(โยะ) | ||
วรรค ระ | ラ(ระ) | リ(ริ) | ル(รุ) | レ(เระ) | ロ(โระ) |
ワ(วะ) | ヲ(โอะ) | ン(อึง หรือ อุง) |
คันจิ (漢字)
เป็นอักษรจีนที่ญี่ปุ่นนำเข้ามาใช้ โดยคำที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีประมาณ 2,000 คำ
การออกเสียง
การออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นแม้จะมีความหมายและเขียนเหมือนกันแต่การออกเสียงมีลักษณะที่แตกต่างกันออกขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ
- อักษรในกลุ่ม か
ออกเสียงเป็น ค หากตัวอยู่ในพยางค์แรกของประโยค และออกเสียงเป็น ก หากอยู่ในพยางค์หลัง
ไวยากรณ์
ประโยคภาษาญี่ปุ่นจะเรียงลำดับเป็น ประธาน-กรรม-กริยา
บทเรียน
บทเรียน 1
บทเรียนนี้จะเป็นการแนะนำให้เห็นภาพกว้างๆของประโยคในภาษาญี่ปุ่น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมาก่อน
ก่อนจะเข้าสู่บทเรียน คุณควรจดจำศัพท์ 3 คำในตารางข้างล่างนี้ ซึ่งคุณจะได้พบเจอบ่อยในบทเรียนต่อๆไป คุณไม่จำเป็นต้องรู้วิธีอ่านอักษรญี่ปุ่นในตอนนี้ แต่ขอให้จดจำ"คำอ่าน"และ"ความหมาย"ให้ขึ้นใจ
ภาษาญี่ปุ่น | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
わたし | watashi (วะตะชิ) | ฉัน |
あなた | anata (อะนะตะ) | คุณ |
です | desu (เดสึ) | ครับ,ค่ะ |
ตารางข้างล่างนี้เป็นชื่อคน คุณไม่จำเป็นต้องจำ ขอให้รู้ว่าคำเหล่านี้เป็นเพียงชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายใดๆ
ภาษาญี่ปุ่น | คำอ่าน |
---|---|
たなか | tanaka (ทะนะกะ) |
なかむら | nakamura (นะกะมูระ) |
โครงประโยคพื้นฐาน
รูปประโยคพื้นฐานในภาษาญี่ปุ่นประกอบด้วย "ส่วนหัวเรื่อง" และ "ส่วนแสดง"
- ส่วนหัวเรื่อง จะต้องลงท้ายด้วยคำว่า は (wa อ่านว่า วะ) เสมอ
- ส่วนแสดง จะต้องวาง คำกริยา ไว้ท้ายประโยค
ตัวอย่าง 1
- watashi wa tanaka desu
- วะตะชิ วะ ทะนะกะ เดะสึ
- =ฉันคือทะนะกะ
- ส่วนหัวเรื่องของประโยคนี้ก็คือ "ฉัน" ดังนั้น จึงเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า watashi wa (วะตะชิ + วะ)
- ส่วนแสดงของประโยคนี้ก็คือ "คือ + ทะนะกะ" ดังนั้น จึงเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า tanaka desu (ทะนะกะ + เดะสึ)
ตัวอย่าง 2
- anata wa nakamura desu ka
- อะนะตะ วะ นะกะมุระ เดะสึ กะ
- =คุณคือนะกะมุระใช่มั๊ย
- ส่วนหัวเรื่อง คือ "คุณ" เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า anata wa (อะนะตะ + วะ)
- ส่วนแสดง คือ "คือ + นะกะมุระ" เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า nakamura desu (นะกามูระ + เดสึ)
ตัวอย่าง 3
จำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง
ภาษาญี่ปุ่น | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
きれい | kirei (คิเร) | สวย |
- nakamura wa kirei desu
- นากามูระ วะ คิเร เดสึ
- =นากามูระสวย
- ส่วนหัวเรื่อง คือ นากามูระ เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า nakamura wa (นากามูระ + วะ)
- ส่วนแสดง คือ สวย เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่า kirei desu (คิเร + เดสึ)
คำช่วย
ภาษาญี่ปุ่นมีการใช้ "คำช่วย" เพื่อบอกหน้าที่ของคำที่นำหน้าคำช่วย
ตัวอย่างเช่น คำว่า は (wa อ่านว่า วะ) ที่เราได้เรียนไปนั้น ถือเป็นคำช่วยที่ใช้บอกหัวเรื่อง ดังนั้น คำใดๆที่อยู่หน้าคำว่า wa จะเป็นหัวเรื่องเสมอ
นอกจากนี้ ภาษาญี่ปุ่นยังมีคำช่วยอื่นๆอีก เช่น を (o อ่านว่า โอะ) เป็นคำช่วยที่ใช้บอกกรรม ดังนั้น คำที่อยู่หน้าคำว่า o จะเป็นกรรมของประโยคเสมอ
คำช่วย | คำอ่าน | หน้าที่ |
---|---|---|
は | wa (วะ) | บอกหัวเรื่อง |
を | o (โอะ) | บอกกรรม |
ตัวอย่าง 4
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง
ภาษาญี่ปุ่น | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
ほん | hon (ฮ้ง) | หนังสือ |
よみます | yomimasu (โยมิมัส) | อ่าน |
- "ฉันอ่านหนังสือ"
- watashi wa hon o yomu
- ส่วนหัวเรื่องคือ ฉัน = watashi wa (วะตะชิ วะ).
- เราใช้คำช่วย "วะ" วางหลังคำว่า "วะตะชิ" เพื่อบอกว่า วะตะชิ เป็นหัวเรื่อง
- ส่วนแสดงคือ อ่านหนังสือ = hon o yomimasu (ฮง โอะ โยมิมัส)
- เราใช้คำช่วย "โอะ" วางหลังคำว่า"ฮง" เพื่อบอกว่า ฮง เป็นกรรม
ตัวอย่าง 5
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง
ภาษาญี่ปุ่น | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
すし | sushi (ซูชิ) | ข้าวห่อสาหร่าย |
たべます | tabemasu (ทาเบมัส) | กิน |
- "ทานากะกินข้าวห่อสาหร่าย"
- tanaka wa sushi o tabemasu
- ทานากะ วะ ซูชิ โอะ ทาเบมัส
ตัวอย่าง 6
มาดูตัวอย่างของคำช่วยอีกคำหนึ่ง
คำช่วย | คำอ่าน | หน้าที่ |
---|---|---|
へ | e (เอะ) | บอกจุดหมายปลายทาง |
กรุณาจำคำศัพท์ต่อไปนี้ก่อนอ่านตัวอย่าง
ภาษาญี่ปุ่น | คำอ่าน | ความหมาย |
---|---|---|
とうきょう | toukyou (โตเกียว) | โตเกียว |
いきます | ikimasu (อิคิมัส) | ไป |
- "ฉันไปโตเกียว"
- watashi wa toukyou e ikimasu
- วะตะชิ วะ โตเกียว เอะ อิคิมัส
- เราใช้ คำช่วย"เอะ" วางหลังคำว่า"โตเกียว" เพื่อบอกว่า โตเกียว เป็นจุดหมายปลายทาง
ตัวอย่าง 7
มาดูตัวอย่างของคำช่วยอีกคำหนึ่ง
คำช่วย | คำอ่าน | หน้าที่ |
---|---|---|
で | de (เดะ) | บอกสถานที่ |
- "ฉันอ่านหนังสือที่โตเกียว"
私は東京で本を読みます
- watashi wa toukyou de hon o yomimasu
- วะตะชิ วะ โตเกียว เดะ ฮง โอะ โยะมิมะสึ
- คำช่วย "เดะ" ระบุว่า"โตเกียว" เป็นสถานที่ที่เกิดการกระทำขึ้น (การอ่าน)
- คำช่วย "โอะ" ระบุว่า"ฮง" เป็นกรรม