ผู้ใช้:Attaphon/กระบะทราย

ปัญหาบ้าน สีพอง ปริบวม เพราะความชื้นพร้อมกับวิธีแก้ไข

สีพอง ปริบวม สรุปขั้นตอนแก้ไขปัญหา มีดังนี้

ให้ขัดฟิล์มสีช่วงชายล่างของกำแพง (1 เมตรแรก) ออกให้หมด (หรืออย่างน้อย 90%) แล้วทา “น้ำยารองพื้น ป้องกันความชื้นทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชม. (แต่ไม่เกิน 7 วัน) โดยที่เรายินดีที่ซื้อน้ำยารองพื้นดังกล่าวให้ แล้วจึงค่อยทำการซ่อมแซมสีให้เราอีกที น้ำยารองพื้นปูน ป้องกันความชื้น มีวางจำหน่ายราคาประมาณ 900 บาท 5 ลิตร จะได้ความสูง 1 เมตรยาวประมาณ 30-35 เมตร

โดยมีสมาชิกชื่อ INDOJEEN เข้ามาตอบดังนี้ “หากมีความชื้นบริเวณนั้นตลอดโดยเฉพาะหน้าฝน ความชื้นในพื้นดินมีมาก ไหนจะน้ำฝนตกลงพื้นแล้วกระเด็นขึ้นมาโดนกำแพงด้านล่างอีก หากขัดสีใหม่ ทารองพื้นด้วยน้ำยากันเชื้อรากันชื้น ทาสีใหม่ ก็คงอยู่ได้พอควร แต่ถ้าน้ำยากันเชื้อราหมดสภาพ สีก็พองลอกอีกเพราะมีความชื้นอยู่ดี หากเป็นผม (ความคิดส่วนตัวนะครับ)ผมจะปูกระเบื้องเซรามิค หริอติดหินทรายแทนการทาสีครับ ติดจากพื้นขึ้นมาสูงสัก 60-70 เซนติเมตร หรือตามความเหมาะสมของผนังด้านนอกของบ้าน หรือติดตั้งแต่พื้นขึ้นมาจนถึงขอบบัว สำหรับหินทรายติดเสร็จก็ทาน้ำยากันเชื้อราผสมทินเนอร์ทาทับอีกที จะทำให้น้ำไม่สามารถเข้าไปในเนื้อหินได้ แต่ควรทาในระยะที่ฉลากแนะนำครับ ไม่แน่ใจว่า3หรือ5ปี/ครั้ง รูปหินทรายครับ…”

สมาชิกหมายเลข 3730004 ปัญหาฟิล์มสีปริบวม หรือหลุดล่อนของฟิล์มสีช่วงล่างของกำแพง (ความชื้นใต้ดิน ซึมซับขึ้นมาในผนัง ) เป็นปัญหาที่พบอยู่ที่ใกล้แหล่งน้ำ หรือที่มีกิจกรรมการใช้น้ำและตวามชื้นมาก แม้ทำการทาใหม่แล้วก็จะกลับมาเป็นอีกในไม่ช้า จนทำให้หลายๆคนคิดว่าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่สิ่งที่น่าตลกคือ หากสีที่ทานั้นเป็นสีที่มีคุณภาพดี กลับมักพบปัญหามากกว่า และเร็วกว่าสีคุณภาพต่ำ เพราะฟิล์มสีในสีเกรดต่ำ จะมีเนื้อฟิล์มที่ไม่แน่น มีรูพรุนมากให้อากาศระบายออก จึงพอที่จะทำให้ความชื้นค่อยๆซึมคายผ่านฟิล์มสี ก็จะเสียหายช้ากว่า โดยทั่วไปหากเป็นบ้านที่ซื้อจากโครงการ หรือสร้างโดยบริษัทรับสร้างบ้าน เมื่อถูกร้อง claim หรือระบุเป็น defect ไป ก็มักจะได้รับการแค่เพียงมาขัดขูดลอกฟิล์มสีที่มีปัญหาออกแล้วทาสีให้ใหม่ ซึ่งพอผ่านไปอีกระยะปัญหาเดิมก็กลับมาเป็นอีก คราวนี้มักจะเลยระยะการรับประกันไปแล้ว

หมายเหตุ : “น้ำยารองพื้นปูน ป้องกันความชื้น” เป็นคนละประเภทกับ “น้ำยากันเชื้อรา” ตามที่บางคนเข้าใจผิดกัน อนึ่งกรณีเป็นบ้านที่ทาสีไปแล้ว และมีปัญหาดังกล่าว จำเป็นต้องขัดลอกฟิล์มสีช่วง 1 เมตรแรกออกให้หมด หรืออย่างน้อย 90% เพื่อที่น้ำยาป้องกันความชื้นจะได้ซึมซับเข้าเนื้อปูนได้ดี จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันความชื้นจากภายในผนังได้ ควรทาน้ำยารองพื้นปูน ป้องกันความชื้นบนผนังฉาบบางสกิมโค้ทร่วมด้วย จะได้เป็นการป้องกัน 2 ชั้น