ข้ามไปเนื้อหา

แฮร์รี่ พอตเตอร์/แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่ม 7

จาก วิกิตำรา

เรื่องย่อ แฮร์รี่พอตเตอร์ ภาคสุดท้าย ชื่อเรื่องว่า (scar)

Harry Potter and the scar แฮร์รี่กลับไปบ้านเดอร์สลีย์ในปิดเทอมหน้าร้อน เขาได้รับข่าวจากหนังสือพิมพ์ทั้งของเดลิพรอเฟ็ตและหนังสือพิมพ์ของมักเกิ้ลว่ามีเรื่องฆาตกรรมหลายคดี หนึ่งในนั้นคือ ‘คดีการเสียชีวิตของชายชราผู้เสียสติ’จากหนังสือพิมพ์ของมักเกิ้ล เมื่อถึงวันเกิดปีที่สิบเจ็ด (แฮร์รี่สามารถใช้เวทมนตร์ได้) ก็เกิดเหตุประหลาดเมื่อสมาชิกภาคีนกฟินิกซ์เดินทางมาหาเขาที่บ้านเดอร์สลีย์เพื่อร่ายคาถาผู้เก็บความลับใส่แฮร์รี่เพื่อปกปิดที่อยู่ของพวกเดอร์สลีย์ส่วนแฮร์รี่ก็ตัดสินใจเดินทางไปหารอนและเฮอร์ไมโอนี่ที่บ้านโพรงกระต่ายเพื่อที่จะเข้าร่วมพิธีแต่งงานของบิลกับเฟลอร์ หลังจากเสร็จพิธีแต่งงาน แฮร์รี่ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเพื่อนทั้งสองที่จะช่วยออกติดตามฮอร์ครักซ์ที่เหลืออยู่อีกสี่อัน เขาตัดสินใจเดินทางไปก็อดริกฮอลโลว์โดยไร้เพื่อนทั้งสองแต่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธโดยขอร้องว่าให้กลับไปฮอกวอตส์ แต่แฮร์รี่ไม่ยอมฟังแต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าในห้องอาจารย์ใหญ่มีรูปถ่ายของดัมเบิลดอร์เขาเลยตัดสินใจที่จะกลับสู่บ้านเก่าที่ฮอกวอตส์แทบจะไม่มีนักเรียนเหลืออีกเลย นักเรียนส่วนใหญ่ที่เหลือจะเป็นพวกอดีตกองทัพดัมเบิลดอร์ ยกเว้นแฮนนา ฮับบอร์ดที่ไม่มีใครเห็นเธอเลย ในปีนี้ไม่มีการเรียนการสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเนื่องจากฮอเรช ซลักฮอร์นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีลิน คนใหม่ได้ขอร้องให้แฮร์รี่เปิดการอบรม ก.ด.ให้กับทุกคน แต่เขาปฏิเสธและขอที่จะเข้าไปในห้องอาจารย์ใหญ่ ปรากฏว่ารูปเหมือนของดัมเบิลดอร์ได้ถูกคำแช่งของฆาตกรที่ฆ่าเขาไม่ให้ทิ้งรอยระลึกไว้ในโลกนี้ซึ่งทำให้แฮร์รี่เสียใจอย่างมากและอารมณ์เสียบ่อยจนทำให้จินนี่ วีสลีย์ไม่พอใจและยืนยันที่จะเลิกคบกับเขาถ้าเขาไม่ปรับปรุงตัว ระหว่างนั้นรอนก็ทำตัวแปลกๆไปเพราะเขามีความลับบางอย่างเก็บไว้และนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่พอใจเช่นกัน ส่วนลูน่าก็มีท่าทีแปลกๆกับเนวิลล์พฤติกรรมของเพื่อนๆเป็นเช่นนี้ เขาจึงออกนอกปราสาทเพื่อตามหาฮอร์ครักซ์เนื่องจากได้ยินข่าวว่าตรามารปรากฏครั้งสุดท้ายใกล้ก็อดริกฮอลโลว์ระหว่างทางเขาได้พบกับศพของโอลิแวนเดอร์ และเห็นหลักฐานของ ร.อ.บ ที่บ่งชี้ว่าคือ เรกูลัส อ. แบล็ก น้องชายของซิเรียส นอกจากนั้นในผ้าคลุมของโอลิแวนเดอร์มีถ้วยของเฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟซึ่งแฮร์รี่แน่ใจว่าเป็นฮอร์ครักว์แล้วก็ทำลายไป แฮร์รี่ได้รู้จักกับสาวน้อยตระกูลเรเวนคลอที่อยู่แถวๆที่เขาพบกับศพของโอลิแวนเดอร์แต่แฮร์รี่ไม่ไว้ใจเธอเขาเกือบตกหลุมพรางเมื่อเธอพยายามที่จะสาปเขาด้วยคำสาปสะกดใจ และรู้ว่าเธอคือ วินเซนต์ แครบปลอมตัวด้วยน้ำยาสรรพรสมาเขาประหลาดใจมากที่พบดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์อยู่ที่แครบและรู้ว่านี่คือฮอร์ครักซ์แต่ไม่ตัดสินใจทำลายเพราะเป็นสมบัติของกริฟฟินดอร์แฮร์รี่ต้องเจอกับเฟรเรียน เกรแบล็กพร้อมกับเซเวอรัส สเนป แฮร์รี่เกือบเอาชีวิตไม่รอดเมื่อสเนปรู้ทันคำสาปของเขาและเกือบถูกมนุษย์หมาป่ากัด ถ้ารอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ เนวิลล์และลูน่าไม่มาช่วยไว้ทัน จากที่รอนเล่าว่าตอนนี้ฮอกวอตส์ได้ถูกยึดครองโดยลอร์ดโวลเดอมอร์แล้วแต่แฮร์รี่ไม่เชื่อ และเขาเสียใจอย่างเป็นที่สุดว่าท็องส์ถูกคำสาปกรีดแทงจนบาดเจ็บสาหัสและเดรโก มัลฟอย แฮกริดกับเขี้ยวก็หายไปอย่างไร้ล่องรอยเนื่องจากรู้ว่ายังเหลือฮอร์ครักอีกสองชิ้นที่หาไม่ได้เขาจึงตัดสินใจแบ่งเป็นสองกลุ่มโดยเขาจะออกเดินทางกับเนวิลล์เพียงสองคนสร้างความไม่พอใจแก่รอนแต่ก็ยอมทำตามโดยดี ระหว่างนั้นเขาก็ได้ยินข่าวว่านาร์ซิสซ่า มัลฟอยได้หายตัวไปอย่างไร้ล่องรอย ส่วนคุกอัซคาบันก็แตกทำให้ผู้เสพความตายจำนวนมากหนีมาได้และได้รู้ว่าจริงๆแล้วมันดังกัส กับสแตนชันไพร์คือผู้เสพความตายแฮร์รี่พบกับเซเวอรัส สเนปอีกครั้งและได้ต่อสู้ด้วยกันกับเนวิลล์และสามารสังหารสเนปได้ แต่ก่อนตายสเนปก็บอกว่าฮอร์ครักซ์ชิ้นสุดท้ายนอกจากนากินีแล้วมีเขาคนเดียวที่รู้ว่าอยู่ที่ไหนซึ่งสร้างความเสียใจและผิดหวังแก่แฮร์รี่อย่างมากและบอกว่าให้ทำลายดาบของกริฟฟินดอร์เพราะยืนยันว่าเป็นฮอร์ครักซ์แต่เนวิลล์ปฏิเสธที่จะทำลายทำให้แฮร์รี่คิดว่าเนวิลล์อาจเป็นทายาทของกริฟฟินดอร์ รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่และลูน่าก็พบกับแฮร์รี่และเนวิลล์ในที่สุดและปรึกษากันเดินทางกลับไปฮอกวอตส์เพราะได้ข่าวว่ากองทัพภาคีนกฟีนิกซ์และกระทรวงได้แพ้กองทัพของจอมมารอย่างราบคาบพวกเขาหายตัวกลับไปที่ฮอกวอตส์และพบกับศพของฮอเรช ซลักฮอร์นที่เป็นอินเฟอไร รวมทั้งอาจารย์มักกอนนากัลกับอาจารย์คนอื่นๆที่ถูกคำสาปสะกดใจ แฮร์รี่กับเนวิลล์ได้ต่อสู้กับผู้เสพความตายอย่างกล้าหาญ โดยที่รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่กับลูน่าถูกแฮร์รี่บังคับให้ดื่มยาฟิลิก ฟิลิคิสแต่ไม่พอสำหรับเนวิลล์ ในที่สุดพวกเขาได้พบกับลอร์ดโวลเดอมอร์และค้นพบว่าฮอร์ครักซ์ชิ้นสุดท้ายไม่ใช่ล็อกเก็ตของสลิธีลินแต่อย่างไรแต่เป็นแผนที่ทำให้เขากับดัมเบิลดอร์ไขว้เขว แต่รู้ว่าชิ้นสุดท้ายคือสายเลือดของแฮร์รี่เอง! เพราะเลือดที่โวลเดอมอร์ทำให้ตนเองคืนชีพคือเลือดของแฮร์รี่ ถ้าแฮร์รี่ตายเลือดในตัวของจอมมารก็จะสลายเพราะเป็นเลือดของแฮร์รี่แฮร์รี่ขอร้องให้เนวิลล์ฆ่าเขาซึ่งเป็นสิ่งที่โวลเดอมอร์ปฏิเสธเพราะยื่นข้อเสนอที่จะสร้างฮอร์ครักซ์ให้แฮร์รี่ ด้วยการบังคับของแฮร์รี่เนวิลล์จึงยอมจำนนและสังหารแฮร์รี่ด้วยดาบของกริฟฟินดอร์ และนี่เป็นจุดอวสานของจอมมารลอร์ดโวลเดอมอร์งานศพของแฮร์รี่จัดขึ้นข้างเคียงกับสุสานสีขาวของดัมเบิลดอร์อย่างเศร้าสร้อยรอนได้ขอเฮอร์ไมโอนี่แต่งงานทันที ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธแต่ขอเวลาเธออยู่กับพ่อแม่ ส่วนจินนี่ก็เศร้าใจจนเธอไม่ตัดสินใจที่จะไปเลือกคบคนใหม่อีกต่อไป


ยังไม่หมดนะ เนื่องจาก2อันที่อ่านมามันไม่เหมือนกัน แต่เนื้อเรื่องคล้ายกันเพียงแต่ใส่รายละเอียดไม่เหมือนกันเลยเอามาให้อ่านดูทั้งสองอัน แต่จบเหมือนกันเลย นี่คืออันที่สอง

เปิดฉากที่งานแต่งงานของบิลและเฟลอร์ มีคนมาร่วมกันมากมาย จนพื้นที่ของบ้านโพรงกระต่ายไม่พอที่จะต้อนรับแขกที่มามากมายจนต้องใช้พื้นที่ข้างหลังบ้านซึ่งเป็นสวนผลไม้ของครอบครัววิสลีย์ ( สวนนี้เคยเป็นที่เล่นควิชดิชของแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ ก่อนเข้าโรงเรียน แฮร์รี่เล่นที่สวนนี้ถึงสองถึงสามสัปดาห์ )มีแขกมากมายหลายคนเช่น มาดามมักซีม อาจารย์ใหญ่วิทยาลัยเวทมนตร์ศาสตร์โบบอตงส์ และเพื่อนๆของเฟลอร์ ( รอนชอบเพื่อนของเฟลอร์มากๆถึงขนาดถามเธอไปทุกอย่าง จนจินนี่ เฮอร์ไมโอนี่ คุณนายวิสลีย์ รวมถึงท็องส์ด้วย เบื่อมากจนกระทั้งคุณนายไม่พูดกันรอนเลยตลอด หนึ่งสัป-ดารห์) รูฟัส สกิมเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ ( อาเธอร์ วิสลีย์ ดีใจมาก ๆๆ ถึงให้ห้องพักของตนเองเป็นที่พักของรัฐมนตรีเลย ) เพอร์ซี่ ซึ่งเป็นผู้ช่วยของรูฟัสก็มาด้วย ( รอนถึงกับจะชกหน้าเพอร์ซี่ที่ไม่มาเยี่ยมบ้านในฤดูร้อน แต่แฮร์รี่มาห้ามไว้ทัน ) โดโรเรส อัมบิสจ์ ( แฮร์รี่โกรธมากๆแต่เขาก็เก็บอารมณ์ได้ ) แฮกริด ศาสตราจารย์ มักกอนนากัล ศาสตราจารย์ สลักฮอร์นศาสตราจารย์ฟลิตวิก ศาสตราจารย์ ซินิสตร้า ศาสตราจารย์ เคทเทิลเบิร์น ศาสตราจารย์ เวกเตอร์ ศาสตราจารย์ ทรีลอว์นีย์ ศาสตราจารย์ มาร์สแชง ศาสตราจารย์ ท็อฟตี้ ศาสตราจารย์ สเปราต์ ศาสตราจารย์ บินส์ ( คุณนาย วิสลีย์ ถึงกับจัดห้องที่มืดมากๆให้และศาสตราจารย์ออกมาตอนงานเลี้ยงตอนกลางคืน )คณะกรรมการโรงเรียน กรอป์ น้องชายต่างพ่อของแฮกริด ( คุณนาย วิสลีย์ ถึงกับเสกเก้าอี้ขนาดใหญ่ให้ ) เอลฟ์ ทุกตัวในโรงเรียน ( มาช่วยทำอาหารให้กับคุณนาย วิสลีย์ ตามคำเชิญ ) ทอม เจ้าของร้านหม้อใหญ่รั่ว มาดาม โรสเมอร์ทาร์ เจ้าของร้านไม้กวาดสามอัน ( เอาเหล้าชั้นดีที่สุดมาให้คุณนาย วิสลีย์ ) อเบอร์โฟร์ท ดัมเบิลดอร์ (ซึ่งเป็นน้องชายของ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เชื่อกันว่าเขาเป็นคนยืนขายบาร์เหล้าที่ร้านหัวหมู) คุณดิกกอรี่ พ่อของเซดริก สมาชิก ก.ด. ( กองทัพดัมเบิลดอร์ )ทุกคน ( คงต้องไม่ต้องเอ่ยชื่อว่ามีใครบ้างเพราะคนที่อ่านภาค 5 จบแล้วคงรู้ ) เฟร็ด จอร์ด เจ้าของร้านเกมกลวิสลีย์ ทั้งสาขาตรอกไดแอกรอน และอีกสาขาหนึ่งซึ่งกำลังจะเปิดที่ฮอกมืด สองฝาแฝดบอกว่าสินค้าขายดีมากจนนึกจะเปิดสาขาที่สาม ( สองฝาแฝดบอกกับรอน ) ออกัสต้า ลองบัตท่อมคุณย่าของเนวิลล์ ก็มาด้วย ( มาดูแลเนวิลล์) สมาชิกภาคี หลังงานแต่ง แฮรี่ลาเพื่อนๆ เพื่อที่จะตามหา Horcruxes และไม่กลับไปฮอกวอร์ต แม้ว่าเพื่อนๆจะขอติดตามไปด้วย แต่แฮรี่ก็แอบหนีไปคนเดียว ฮ็อกวอร์ตถึงแม้จะยังเปิดสอนภายใต้อาจารย์ใหญ่คนใหม่ มัคกอลนากัล แต่นักเรียนที่กลับมาในปีนี้ ก็ลดจำนวนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด D.A. กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ห้องลับเป็นชมรมอีกแล้ว เพราะอาจารย์ในโรงเรียนต่างก็ยอมรับ และกลุ่ม Order of Phenix ผลัดกันมาช่วยสอน ทำให้วิชา Defense against dark art ของกลุ่มพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเนวิลล์ และจินนี่ และกลุ่ม D.A. ก็เฝ้ารอว่าสักวัน แฮรี่จะส่งสัญญาณให้พวกเขาเข้าช่วยในการปราบโวลเดอร์มอร์ ฝ่ายแฮรี่ ได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลลึกลับ ทำให้รู้การเคลื่อนไหวของโวลเดอร์มอร์ และสามารถขัดขวางโวลเดอร์มอร์ได้หลายครั้ง รวมถึงร่องรอยของ R.A.B. ด้วย และเมื่อตามรอย R.A.B ไปถึงอัซคาบัล เขาจึงค้นพบว่า R.A.B. แท้จริงคือน้องชายของซีเรียส แบล็ค ที่ถูกคุมขังในอัซคาบัล ซึ่งได้ตายไปแล้ว โดย R.A.B. ซึ่งเป็นลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของโวลเดอร์มอร์ เป็นผู้ช่วยของโวลเดอร์มอร์ในการทำ Horcruxes และนำไปซ่อน แต่ต่อมา R.A.B. ระแวงว่าโวลเดอมอร์กำลังจะกำจัดเขา เพื่อปิดปากไม่ให้เรื่อง Horcruxes รั่วไหล เขาจึงแอบไปเก็บ Horcruxes มาเปลี่ยนที่ซ่อน โดยเขารู้ Horcruxes จำนวนห้าชิ้น(อีกสองชิ้นคือตัวโวลเดอร์มอร์ และงู) และได้กระจายไปยังญาติๆตระกูลแบล็คเพื่อเก็บรักษา (ไดอารี่เก็บไว้ที่แม่ของมัลฟอย) แฮรี่ขอความช่วยเหลือจากท็องส์เพื่อสืบหาคนในตระกูลแบล็ค ที่น่าจะเก็บของที่เหลืออีกสามชิ้น (สองชิ้นเจอแล้ว) และพบว่าชิ้นหนึ่งอยู่ที่เบลลาทริกซ์ ซึ่งแฮรี่และท็องส์สามารถกำจัดเบลล่า และทำลาย horcruxes ได้ อีกชิ้นหนึ่งเป็นสมบัติของซีเรียส แบล็ค ที่อยู่ใกล้ตัวแฮรี่มากๆ แต่แฮรี่มองข้ามไป จนกว่าจะรู้ตัวก็เกือบไม่ทัน ( R.A.B ก็เข้าใจว่าซีเรียสเป็น Dead eater จึงเก็บไว้กับซีเรียสส่วนนึง) และอีกส่วนหนึ่งซึ่งยังหาไม่เจอ และคาดว่า R.A.B.จะเก็บไว้เอง ในขณะเดียวกันที่ฮอกวอร์ต เฮอร์ไมโอนี่ (ซึ่งติดต่อกับแฮรี่ และรู้เรื่องราวโดยตลอด) ก็จับสังเกตในตัวครีเชอร์ได้ และสันนิษฐานว่า Horcruxes อีกชิ้นซ่อนอยู่ในบ้านของแบล็คที่ปัจจุบันตกเป็นของแฮรี่ แฮรี่กลับไปที่บ้านเลขที่ 12 และค้นหาจนเจอ Horcrux และทำลายจนสำเร็จ และเขารู้ว่าถ้าเขาฆ่างูได้สำเร็จ โวลเดอร์มอร์ก็จะเหลือแค่ชีวิตเดียวด้วยความช่วยเหลือของบุคคลลึกลับ แฮรี่สามารถแฝงกายเข้าไปในที่กบดารของโวลเดอร์มอร์ได้ และเขาพยายามหาทางฆ่างูของโวลเดอร์มอร์จนสำเร็จ และขณะจะเข้าไปลุยโวลเดอร์มอร์แบบยอมตาย(เพราะเข้าใจว่าเหลือจิตเดียวแล้ว) แต่โดนสเนปขัดขวาง ด้วยความโกรธแค้น แฮรี่ฆ่าสเนปจนตาย ก่อนพบว่านี่เป็นกับดักที่ล่อให้เขามาติดกับ แต่ทันใดนั้นมัลฟอยก็โผล่มาช่วยแฮรี่ได้ทัน และหนีไปที่ฮอกวอร์ต ที่ฮอกวอร์ต มัลฟอยเล่าให้ฟังว่าสเนปคือคนที่ส่งความเคลื่อนไหว ของโวลเดอร์มอร์ให้แฮรี่ และ Order of Phenix มาโดยตลอดอย่างลับๆ ทำให้โวลเดอร์มอร์ไม่สามารถทำอะไรได้สะดวก แฮรี่ไม่ยอมเชื่อจนพบความทรงจำของดัมเบิลดอร์ และพบว่าเป็นตอนที่ดัมเบิลดอร์ขอร้องให้สเนปฆ่าเขา เพื่อแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มโวลเดอร์มอร์ได้สนิท มัลฟอยเล่าให้ฟังว่าสเนปสามารถโน้มน้าวมัลฟอยให้ถอนตัวจาก Dead eater ได้ แต่โวลเดอร์มอร์ก็สงสัย จึงวางแผนให้สเนปส่งข่าวผิดๆ ให้แฮรี่เพื่อวางกับดัก เพื่อล่อทั้งแฮรี่และสเนป และมัลฟอยยังบอกอีกว่างูไม่ใช่ Horcrux ที่แท้จริง แต่โวลเดอร์มอร์หลอกให้แฮรี่ตายใจเท่านั้น สรุป ยังมี horcrux ที่หลงเหลืออยู่ และไม่รู้ว่าเป็นอะไร แฮรี่เสียใจมากที่ตัวเองฆ่าเสเนปไป ทันใดนั้น โวลเดอร์มอร์ และ กลุ่ม Dead eater ก็บุกเข้ามาในฮอกวอร์ต กลุ่ม D.A. ช่วยกันสู้เต็มที่แต่ก็ต้านไว้แทบไม่ไหว โวลเดอร์มอร์ไล่ล่าแฮรี่ด้วยตัวเอง จนเหลือแต่แฮรี่และเนวิลล์ในห้องของอาจารย์ใหญ่ และตัวโวลเดอร์มอร์ โวลเดอร์มอร์เฉลยว่า Horcrux อีกอันนึงก็คือแผลเป็นบนหน้าผากแฮรี่ (โดยการฆ่าเจมส์ พอตเตอร์เพื่อสร้าง horcrux นี้) และเป็น Horcrux ที่จะทำให้โวลเดอร์มอร์ชนะ เพราะจากคำทำนาย จะมีผู้รอด ชีวิตเพียงคนใดคนหนึ่ง ซึ่งถ้าแฮรี่รอด นั่นก็หมายถึงโวลเดอร์มอร์รอดด้วย ซึ่งจะไม่เป็นตามคำทำนาย ฉะนั้นแฮรี่จึงต้องเป็นฝ่ายตาย แฮรี่ยังคงสู้กับโวลเดอร์มอร์เต็มที่ แม้จะได้ยินอย่างนั้น เขาใช้ดาบกริฟฟินดอร์สู้กับโวลเดอร์มอร์ ก่อนจะโยนดาบให้เนวิลล์และร้องบอกให้เนวิลล์แทงโวลเดอร์มอร์ โวลเดอร์มอร์มัวแต่ระวังแฮรี่จึงโดนเนวิลล์แทงจนตาย แฮรี่บอกเนวิลล์และทุกคนว่าคำทำนายจริงๆหมายถึงเนวิลล์ ไม่ใช่แฮรี่ (แต่โวลเดอร์มอร์ไม่รู้ เพราะเขาได้ยินคำทำนายมาจากสเนปอีกที ซึ่งไม่ครบถ้วน ทำให้เขาคิดว่าเป็นแฮรี่) แต่ที่แฮรี่มีอำนาจพิเศษต่างๆเช่นภาษางู หรือเชื่อมจิตใจกับโวลเดอร์มอร์ได้เป็นเพราะแผลเป็นซึ่งเป็น horcrux นั่นเอง และพอเขารู้ตัวว่าเป็นเพราะเหตุนี้ จึงคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่เนวิลล์ (ซึ่งไม่อยู่ในสายตาโวลเดอร์มอร์) อาจเป็นคนในคำทำนายก็ได้ ซึ่งเขาคิดถูก แฮรี่รู้ตัวว่า Horcrux แผลเป็นกำลังมีพลังมากขึ้น และกำลังจะครอบงำเขา ให้เขาเป็นโวลเดอร์มอร์ต่อไป จึงขอร้องให้เนวิลล์กำจัดเขาอีกคน เนวิลล์ไม่ยอม แฮรี่จึงบอกว่าหลายคนเสียสละชีวิตเพื่อกำจัดลอร์ดโวลเดอร์มอร์ ดัมเบิลดอร์ สเนป ซีเรียส รวมถึงพ่อและแม่ของเนวิลล์ ซึ่งการตายของแฮรี่เทียบไม่ได้กับคนอื่น เนวิลล์กลั้นใจกำจัดแฮรี่ ที่งานศพของแฮรี่ ป้าเพ็ตทูเนียมาร่วมงานศพ และเล่าให้ทุกคนฟังว่า โวลเดอร์มอร์ขณะเป็นทอม ริดเดิ้ล ได้พบรักกับหญิงธรรมดาคนหนึ่ง และมีลูกสาวสองคน แต่พอทอมเริ่มเปลี่ยนมาเป็นโวลเดอร์มอร์ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเริ่มทนไม่ได้ และหนีไปโดยความช่วยเหลือของดัมเบิลดอร์ ดัมเบิลดอร์ช่วยให้เธอหลบซ่อน เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม และใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาที่สุด ลูกสาวคนโต ซึ่งเป็นสควิป ไม่มีเวทมนตร์ใดๆและเกลียดโลกของเวทมนตร์มาก แต่ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งมีวี่แววความเป็นแม่มดตั้งแต่เด็ก ได้เข้าเรียนในฮอกวอร์ตภายใต้ ชื่อลิลลี่ อีแวน ซึ่งตอนที่โวลเดอร์มอร์ฆ่าเจมส์ และกำลังทำ horcrux บนตัวแฮรี่ ลิลลี่เข้ามาขัดขวาง และด้วยพลังความรักของแม่ และความเป็นสายเลือดเดียวกันกับโวลเดอร์มอร์ ทำให้เมื่อโวลเดอร์มอร์จะกำจัดลิลลี่ เกิดพลังย้อนกลับทำร้ายโวลเดอร์มอร์จนร่างกายสูญสลายไป และเนื่องจากเหลือแฮรี่คนเดียว ทุกคนจึงเข้าใจว่าแฮรี่มีพลังบางอย่าง ที่ทำลายโวลเดอร์มอร์ (แต่ความจริงเป็นลิลลี่) และมีแต่ดัมเบิลดอร์ที่รู้ความจริง และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ พี่สาวลิลลี่ฟังเพื่อขอร้องให้เธอรับเลี้ยงเด็กชายผู้รอดชีวิต