ภาษาละติน/เทคนิคการจำ 1
วิธีการใช้เทคนิค
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]เทคนิคที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้เป็นวิธีการจดจำตารางการผันคำนามแบบที่ 1 และแบบที่ 2 ทั้งนี้ หากนักเรียนเลือกใช้เทคนิคของตัวเองแทนเทคนิคที่กล่าวถึงนี้ ขอให้นักเรียนอ่านข้ามบทนี้ไปได้เลย
ลำดับของการใช้เทคนิคจะแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน ได้แก่
- การจำตารางการผันคำนาม: นักเรียนควรจดจำตารางการผันคำนามทั้งแบบที่ 1 และแบบที่ 2 ให้ขึ้นใจเสียก่อน
- การหาโครงสร้างประโยค: เมื่อจดจำตารางการผันได้แล้ว นักเรียนสามารถใช้เทคนิคนี้หาโครงสร้างประโยคได้อย่างรวดเร็ว
- การสร้างประโยคด้วยแม่แบบ: เมื่อนักเรียนสามารถหาโครงสร้างประโยคได้แล้ว นักเรียนสามารถใช้เทคนิคนี้สร้างประโยคโดยอาศัยแม่แบบในความทรงจำได้อย่างรวดเร็ว
เทคนิคการจำตารางการผันคำนาม
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]คำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดในหมู่นักเรียนภาษาละติน ก็คือ มีวิธีจดจำตารางการผันคำนามเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วบ้างหรือเปล่า เทคนิคสำคัญของการจดจำตารางผันคำนามอยู่ที่ลำดับของการจดจำการผันของแต่ละการก
- การสังเกตเพศของคำนาม ถ้าสังเกตจากการกประธาน
- เพศหญิง ลงท้ายด้วย -a ผันแบบที่ 1
- เพศชาย ลงท้ายด้วย -us ผันแบบที่ 2
- เพศกลาง ลงท้ายด้วย -um ผันแบบที่ 2
- เริ่มจดจำจากการผันของการกประธานก่อน ผันจากเอกพจน์ไปเป็นพหูพจน์ทำอย่างไร (เหตุผล: เพื่อให้นำประธานไปผูกกับกริยาให้เป็นประโยคได้)
- เพศหญิง: จาก -a ไปเป็น -ae
- เพศชาย: จาก -us ไปเป็น -ī
- เพศกลาง: จาก -um ไปเป็น -a
- ต่อด้วยการผันของการกกรรมตรง (เหตุผล: เพื่อให้สามารถนำประธานกับกรรมมาผูกประโยคได้ จะได้จำได้ง่ายขึ้น)
- เพศหญิง: เดิม -a เปลี่ยนเป็นกรรมตรง ลงเสียง m -am ไปเป็น -ās
- เพศชาย: เดิม -us เปลี่ยนเป็นกรรมตรง ลงเสียง m -um ไปเป็น -ōs
- เพศกลาง: เดิม -um เปลี่ยนเป็นกรรมตรง ลงเสียง m อยู่แล้ว -um ไปเป็น -a
- ต่อด้วยการผันของการกเจ้าของ (เหตุผล: เริ่มนำส่วนขยายของคำนามมาใช้)
- เพศหญิง: เดิม -a เปลี่ยนเป็นเจ้าของ ผันแบบที่ 1 -ae ไปเป็น -ārum
- เพศชาย: เดิม -us เปลี่ยนเป็นเจ้าของ ผันแบบที่ 2 -ī ไปเป็น -ōrum
- เพศกลาง: เดิม -um เปลี่ยนเป็นเจ้าของ ผันแบบที่ 2 -ī ไปเป็น -ōrum
- ต่อด้วยการผันของการกกรรมรอง (เหตุผล: เริ่มนำกรรมรองมาใช้กับกริยาทวิกรรม)
- เพศหญิง: เดิม -a เปลี่ยนเป็นกรรมรอง -ae ไปเป็น -īs
- เพศชาย: เดิม -us เปลี่ยนเป็นกรรมรอง -ō ไปเป็น -īs
- เพศกลาง: เดิม -um เปลี่ยนเป็นกรรมรอง -ō ไปเป็น -īs
- สุดท้าย การผันของการกที่มา (เหตุผล: เริ่มนำที่มามาใช้กับบุพบท)
- เพศหญิง: เดิม -a เปลี่ยนเป็นที่มา -ā ไปเป็น -īs
- เพศชาย: เดิม -us เปลี่ยนเป็นที่มา -ō ไปเป็น -īs
- เพศกลาง: เดิม -um เปลี่ยนเป็นที่มา -e ไปเป็น -īs
- ส่วนการกอุทาน จะเหมือนกับการกประธาน ยกเว้นรูปเอกพจน์ของเพศชาย จะลงท้ายด้วย -e แทน
เทคนิคการหาโครงสร้างประโยค
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]คำถามต่อมาที่นักเรียนภาษาละตินมักจะถามกัน ก็คือ ถ้ามีประโยคภาษาละตินยาวๆ มา จะหาโครงสร้างของมันอย่างไร เทคนิคอยู่ที่การมองหาวิภัตติของคำนามในตำแหน่งที่ถูกต้อง
- หากริยาให้เจอก่อน เอากริยาเป็นแกนกลางของประโยค
- เอาอุทานออกไปก่อน อุทานมักจะมีจุลภาคคร่อมไว้ แต่ถ้าหากไม่มีจุลภาคคร่อม ให้ทำขั้นตอนต่อไปก่อน แล้วค่อยกลับมาหาอุทานทีหลัง
- มองหาประธาน ประธานจะอยู่ในรูปการกประธาน ลงท้ายด้วยวิภัตติ -a, -ae ของเพศหญิง; -us, -ī ของเพศชาย; -um, -a ของเพศกลาง
- ถ้าหากเจอประธานสองตัว ให้สันนิษฐานว่า ประธานตัวที่สองที่อยู่ด้านขวาของประธานตัวที่หนึ่งมักจะเป็นอุทาน
- มองหากรรมตรง กรรมตรงจะอยู่ในรูปการกกรรมตรง ซึ่งมักอยู่ติดกับกริยา ลงท้ายด้วยวิภัตติ -am, -ās ของเพศหญิง; -um, -ōs ของเพศชาย; -um, -a ของเพศกลาง
- มองหากรรมรอง กรรมรองจะอยู่ในรูปการกกรรมรอง ซึ่งมักอยู่ทางซ้ายมือของกรรมตรง ลงท้ายด้วยวิภัตติ -ae, -īs ของเพศหญิง; -ō, -īs ของเพศชายและเพศกลาง
- มองหาบุพบทวลีขยายกริยา ซึ่งมักอยู่ระหว่างกรรมตรงกับกริยา หาบุพบทและส่วนเติมเต็มของบุพบทให้เจอ ส่วนเติมเต็มของบุพบทจะอยู่ในรูปการกที่มา ลงท้ายด้วยวิภัตติ -ā, -īs ของเพศหญิง; -ō, -īs ของเพศชายและเพศกลาง
- ภายในนามวลีที่แบ่งเป็นก้อนไว้แล้ว มองหาเจ้าของของคำนาม ซึ่งมักอยู่ทางขวามือของคำนาม และอยู่ในรูปการกเจ้าของ ลงท้ายด้วยวิภัตติ -ae, -ārum ของเพศหญิง; -ī, -ōrum ของเพศชายและเพศกลาง
เทคนิคการสร้างประโยคด้วยแม่แบบ
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]สูตรการสร้างประโยคด้วยแม่แบบจะมีดังนี้
- เริ่มจากใส่ประธานก่อน หญิง -a, -ae; ชาย -us, -ī; กลาง -um, -ī
- ถ้าในระหว่างที่เติมนามวลีลงในส่วนต่างๆ ต้องการระบุเจ้าของ ให้เติมเจ้าของต่อท้ายคำนาม ผันด้วย หญิง -ae, -ārum; ชาย -ī, -ōrum; กลาง -ī, -ōrum
- ถ้ามีอุทานก็ใส่อุทาน ผันเหมือนประธาน แต่เพศชาย เอกพจน์ ให้ผันด้วย -e แทน
- ใส่กรรมรอง หญิง -ae, -īs; ชาย -ō, -īs; กลาง -ō, -īs
- ใส่กรรมตรง หญิง -am, -ās; ชาย -um, -ōs; กลาง -um, -a
- ถ้ามีบุพบทวลีก็ใส่บุพบทวลี ผันส่วนเติมเต็มด้วย หญิง -ā, -īs; ชาย -ō, -īs; กลาง -ō, -īs
- เติมกริยาที่ท้ายสุด
โดยสรุปแล้ว รูปแบบประโยคพื้นฐานจะเป็นดังนี้ ขอให้นักเรียนจำสูตรนี้ไปใช้ได้เลย
ประธาน | ญ. -a, -ae | + | อุทาน | เหมือนประธาน ยกเว้น ช. เอกพจน์ -e |
+ | กรรมรอง | ญ. -ae, -īs | + | กรรมตรง | ญ. -am, -ās | + | บุพบท | ที่มา | ญ. -ā, -īs | + | กริยา |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ช. -us, -ī | ช. -ō, -īs | ช. -um, -ōs | ช. -ō, -īs | |||||||||||||
ก. -um, -ī | ก. -ō, -īs | ก. -um, -a | ก. -ō, -īs |
ถ้ามีการระบุเจ้าของภายในนามวลี ให้ใช้รูปแบบนี้
คำนามหลัก | + | เจ้าของ | ญ. -ae, -ārum |
---|---|---|---|
ช. -ī, -ōrum | |||
ก. -ī, -ōrum |
หลังจากได้เติมส่วนต่างๆ ลงในช่องแล้ว นักเรียนสามารถเลือกเน้นส่วนสำคัญของประโยคได้ โดยการสลับตำแหน่งตามความสำคัญได้