ภาษาบาลีสำหรับผู้เริ่มต้น/การอ่านออกเสียง
| เนื้อหา: | ตัวอักษร - เสียง (เสียงสระ, เสียงพยัญชนะ) |
|---|
ตัวอักษร
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]ภาษาบาลีเป็นภาษาที่ไม่มีตัวอักษรใช้เป็นของตนเอง ภาษานี้จึงถูกบันทึกด้วยตัวอักษรของประเทศต่าง ๆ ที่ศึกษาภาษาบาลี เช่น ในอินเดียจะใช้ตัวอักษรเทวนาครี ในศรีลังกาจะใช้ตัวอักษรสิงหล ในประเทศพม่าจะใช้ตัวอักษรพม่า ในประเทศกัมพูชาใช้ตัวอักษรเขมร และในประเทศไทยใช้ตัวอักษรไทยและตัวอักษรเขมรควบคู่กันไป ปัจจุบันนี้ภาษาบาลีเริ่มถูกบันทึกด้วยตัวอักษรโรมันมากขึ้น ตามความนิยมและความศรัทธาของชาวตะวันตกที่มีต่อพระพุทธศาสนานั่นเอง ในตำราฉบับแปลเป็นภาษาไทยนี้จะใช้ตัวอักษรโรมันเป็นหลัก แต่ผู้เรียบเรียงจะกำกับตัวอักษรไทยและตัวอักษรเทวนาครีไว้ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ศึกษาต่อไปในภายภาคหน้าด้วย
เสียง
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]ในภาษาบาลีมีเสียงทั้งหมด 41 เสียง แบ่งเป็นเสียงสระ 8 เสียง และเสียงพยัญชนะ 33 เสียง
เสียงสระ
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]เสียงสระทั้งหมด 8 เสียง มีดังนี้
| อักษรโรมัน | a | ā | i | ī | u | ū | e | o |
| อักษรไทย | อ (อะ) | อา | อิ | อี | อุ | อู | เอ | โอ |
| อักษรเทวนาครี (ลอย/จม) | अ / (ไม่มีรูป) | अा / ा | इ / ि | ई / ी | उ / ु | ऊ / ू | ए / े | ओ / ो |
หลักการออกเสียงสระ
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]- 1. สระ a, i, u จะมีเสียงสั้น
- 1.1. ทั้งนี้ สระ a เมื่ออยู่ท้ายคำ จะออกเสียงแผ่วเบาจนกลายเป็นเสียง /เออะ/ เช่น kumāra /กุ-มา-เร่อะ/ เสียงสระ a ที่ท้ายคำนี้ออกเสียงแผ่วเบามากจนแทบจะหายไปในสำเนียงอินเดีย ดังนั้นในสำเนียงอินเดียจึงอ่าน kumāra ว่า /กุ-มารฺ/ (ในภาษาฮินดีจะเขียนเพียง kumār ตามเสียงอ่าน)
- 2. สระ ā, ī, ū จะมีเสียงยาว
- 3. สระ e และ o จะมีเสียงกึ่งสั้นกึ่งยาว โดย
- 3.1. จะออกเสียงสั้นเมื่อเป็นพยางค์ปิด เช่น mettā /เม็ต-ตา/, khetta /เค็ต-เตอะ/, koṭṭha /ก็อฎ-เฐอะ/, sotthi /ซ็อต-ทิ/
- 3.2. จะออกเสียงยาวเมื่อเป็นพยางค์เปิด เช่น deva /เด-เว่อะ/, senā /เซ-นา/, loka /โล-เกอะ/, odana /โอ-ดะ-เนอะ/
เสียงพยัญชนะ
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]เสียงพยัญชนะทั้งหมด 33 เสียง จะแบ่งออกเป็นกลุ่ม (เรียกว่า วรรค) ตามแหล่งกำเนิดเสียง ดังนี้
| วรรค | แหล่งกำเนิดเสียง (ฐาน) | เสียง | ||||
|---|---|---|---|---|---|---|
| วรรคกะ | ฐานคอ (กัณฐชะ) |
k | kh | g | gh | ṅ |
| ก | ข | ค | ฆ | ง | ||
| क | ख | ग | घ | ङ | ||
| วรรคจะ | ฐานเพดาน (ตาลุชะ) |
c | ch | j | jh | ñ |
| จ | ฉ | ช | ฌ | ญ | ||
| च | छ | ज | झ | ञ | ||
| วรรคฏะ | ฐานปุ่มเหงือก (มุทธชะ) |
ṭ | ṭh | ḍ | ḍh | ṇ |
| ฏ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ||
| ट | ठ | ड | ढ | ण | ||
| วรรคตะ | ฐานฟัน (ทันตชะ) |
t | th | d | dh | n |
| ต | ถ | ท | ธ | น | ||
| त | थ | द | ध | न | ||
| วรรคปะ | ฐานริมฝีปาก (โอฐชะ) |
p | ph | b | bh | m |
| ป | ผ | พ | ภ | ม | ||
| प | फ | ब | भ | म | ||
| เศษวรรค | ฐานต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน | h | y | r, ḷ | l, s | v |
| ห (คอ) |
ย (เพดาน) |
ร, ฬ (ปุ่มเหงือก) |
ล, ส (ฟัน) |
ว (ริมฝีปาก) | ||
| ह | य | र, ळ | ल, स | व | ||
| เศษวรรค | ṃ | |||||
| อํ (นิคหิต) |
||||||
| अं | ||||||
หลักการออกเสียงพยัญชนะ
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]- เสียงจากคอ
- เสียง k ออกเสียง /ก/
- เสียง kh ออกเสียง /ค/
- เสียง g ออกเสียงคล้าย /ก/ แต่ให้เลื่อนมาใช้เพดานอ่อนแทน
- เสียง gh ออกเสียงคล้าย /ค/ แต่ใช้เพดานอ่อนแทน
- เสียง ṅ คือเสียง /ง/
- เสียงจากเพดาน
- เสียง c ออกเสียง /จ/
- เสียง ch เหมือน /ช/
- เสียง j ออกเสียงคล้าย /จ/ แต่มีเสียงเสียดสีเหมือน /j/ ในภาษาอังกฤษ
- เสียง jh ออกเสียง /ช/ ที่มีเสียงเสียดสี
- เสียง ñ ออกเสียงคล้าย /ย/ แต่เป็นเสียงขึ้นจมูก เมื่อเป็นเสียงตัวสะกดจะออกเสียงเหมือน /น/
- เสียงจากปุ่มเหงือก
- เสียง ṭ ออกเสียงคล้าย /ต/ แต่ออกเสียงแบบม้วนลิ้น
- เสียง ṭh ออกเสียง /ท/ ที่ม้วนลิ้น
- เสียง ḍ ออกเสียง /ด/ ที่ม้วนลิ้น
- เสียง ḍh ออกเสียง /ด+ท/ ที่ม้วนลิ้น
- เสียง ṇ ออกเสียง /น/ ที่ม้วนลิ้น
- เสียงจากฟัน
- เสียง t ออกเสียง /ต/
- เสียง th ออกเสียง /ท/
- เสียง d ออกเสียง /ด/
- เสียง dh ออกเสียง /ด+ท/
- เสียง n ออกเสียง /น/
- เสียงจากริมฝีปาก
- เสียง p ออกเสียง /ป/
- เสียง ph ออกเสียง /พ/
- เสียง b ออกเสียง /บ/
- เสียง bh ออกเสียง /บ+พ/
- เสียง m ออกเสียง /ม/
- เสียงจากที่ต่างๆ
- เสียง y ออกเสียง /ย/
- เสียง r ออกเสียง /ร/ (มีรัวลิ้น)
- เสียง l ออกเสียง /ล/
- เสียง ḷ ออกเสียงคล้าย /ล/ แต่ม้วนลิ้น
- เสียง v ออกเสียง /ว/ โดยไม่มีเสียงเสียดสีเหมือน /v/ ในภาษาอังกฤษ
- เสียง s ออกเสียง /ซ/
- เสียง h ออกเสียง /ฮ/
- เสียง ṃ ออกเสียงได้หลายแบบ โดย
- สำเนียงลังกา กัมพูชา และไทยจะออกเสียง /ง/ (อัง)
- สำเนียงอินเดียและพม่าจะออกเสียง /ม/
สารบัญ
[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]- บทนำ - การอ่านออกเสียง
- บทที่ 1 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ทำ รูปเอกพจน์และพหูพจน์, การผันกริยากาลปัจจุบันสำหรับประธานบุรุษที่ 3 เอกพจน์และพหูพจน์
- บทที่ 2 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมตรง รูปเอกพจน์และพหูพจน์
- บทที่ 3 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องทำ รูปเอกพจน์และพหูพจน์
- บทที่ 4 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นต้นกำเนิด รูปเอกพจน์และพหูพจน์
- บทที่ 5 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมรอง รูปเอกพจน์และพหูพจน์
- บทที่ 6 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าของ รูปเอกพจน์และพหูพจน์
- บทที่ 7 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นสถานที่ รูปเอกพจน์และพหูพจน์
- บทที่ 8 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นคำร้องเรียก รูปเอกพจน์และพหูพจน์, การผันคำนามเพศกลางที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ
- บทที่ 9 - การสร้างคำนามจากกริยา
- บทที่ 10 - การผันคำกริยาเพื่อไม่ให้ระบุกาล
- บทที่ 11 - การผันคำกริยาเพื่อบอกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน, การผันคำนามเพศชายและเพศกลาง
- บทที่ 12 - การผันคำกริยาในกาลปัจจุบัน และบอกความเป็นผู้กระทำ
- บทที่ 13 - การผันคำกริยาในกาลปัจจุบัน และบอกความเป็นผู้กระทำ (ภาคต่อ)
- บทที่ 14 - การผันคำกริยาเพื่อบอกกาลอนาคต
- บทที่ 15 - การผันคำกริยาเพื่อบอกความเป็นไปได้และคำแนะนำ
- บทที่ 16 - การผันคำกริยาเพื่อบอกคำสั่ง
- บทที่ 17 - การผันคำกริยาเพื่อบอกกาลอดีต
- บทที่ 18 - การผันคำนามเพศหญิงที่ลงท้ายด้วยเสียง อา
- บทที่ 19 - การผันคำกริยาเพื่อบอกเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
- บทที่ 20 - การผันคำนามเพศหญิงที่ลงท้ายด้วยเสียง อิ และ อี
- บทที่ 21 - การผันคำกริยาเพื่อบอกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน (ภาคต่อ), การผันคำนามเพศหญิง
- บทที่ 22 - การผันคำกริยาเพื่อบอกความเป็นผู้ถูกกระทำในกาลอนาคต
- บทที่ 23 - การผันคำกริยาเพื่อบอกการไหว้วานหรือการบังคับ
- บทที่ 24 - การผันคำนามเพศหญิงที่ลงท้ายด้วยเสียง อุ
- บทที่ 25 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อิ
- บทที่ 26 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อี
- บทที่ 27 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อุ และ อู
- บทที่ 28 - การผันคำนามของผู้กระทำกริยา และคำนามที่บ่งบอกความสัมพันธ์ทางเครือญาติ
- บทที่ 29 - การผันคำนามเพศกลางที่ลงท้ายด้วยเสียง อิ และ อุ
- บทที่ 30 - การผันคำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย -วนฺตุ และ -มนฺตุ
- บทที่ 31 - การผันคำสรรพนามบอกบุรุษ
- บทที่ 32 - การผันคำสรรพนามบอกบุรุษ สรรพนามบอกความสัมพันธ์ สรรพนามบอกระยะ และสรรพนามบอกคำถาม
- ภาคผนวก - รายการคำกริยาในภาษาบาลี, รายการคำที่นอกเหนือจากคำกริยาในภาษาบาลี