ข้ามไปเนื้อหา

ภาษาบาลีสำหรับผู้เริ่มต้น/บทที่ 6

จาก วิกิตำรา

การผันรูปคำนามเพศชาย อะ การันต์ ในสัมพันธการก

[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]

การผันรูปคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ (-a) ให้ทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ มีหลักการดังนี้

ความเป็นเจ้าของ หรือ สัมพันธการก ในภาษาบาลีถือเป็นวิภัตตินามลำดับที่หก (ฉัฏฐี) ภาษาอังกฤษเรียก genitive case
ตัวอย่างประโยคที่แสดงลักษณะความเป็นเจ้าของ เช่น บ้านของลุงลุง ทำหน้าที่เป็น "เจ้าของ" โดยมีคำว่า ของ เป็นตัวบ่ง
เมื่อแปลนามที่ทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของจากบาลีเป็นไทย จะให้ความหมายว่า แห่ง... หรือ ของ... (หรือ เมื่อ... สำหรับอนาทร)


1. ถ้าต้องการให้เป็นเอกพจน์ ให้เติม -สฺส (-ssa) ลงที่ท้ายต้นเค้าคำนาม
นร
(nara
+ -สฺส
-ssa)
= นรสฺส
(narassa)
(แห่งผู้ชาย, ของผู้ชาย)
มาตุล
(mātula
+ -สฺส
-ssa)
= มาตุลสฺส
(mātulassa)
(แห่งลุง, ของลุง)
กสฺสก
(kassaka
+ -สฺส
-ssa)
= กสฺสกสฺส
(kassakassa)
(แห่งชาวนา, ของชาวนา)


2. ถ้าต้องการให้เป็นพหูพจน์ ให้เติม -านํ (-ānaṃ) ลงที่ท้ายต้นเค้าคำนาม
นร
(nara
+ -านํ
-ānaṃ)
= นรานํ
(narānaṃ)
(แห่งผู้ชายทั้งหลาย, ของพวกผู้ชาย)
มาตุล
(mātula
+ -านํ
-ānaṃ)
= มาตุลานํ
(mātulānaṃ)
(แห่งลุงทั้งหลาย, ของพวกลุง)
กสฺสก
(kassaka
+ -านํ
-ānaṃ)
= กสฺกานํ
(kassakānaṃ)
(แห่งชาวนาทั้งหลาย, ของพวกชาวนา)

สังเกตว่าการผันเหมือนกับการผันคำนามชนิดเดียวกัน (เพศชาย อะ การันต์) ในรูปกรรมรอง (บทที่ 5) ทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์

ตัวอย่างคำศัพท์อื่น ๆ

ต้นเค้าคำนาม รูปผันเจ้าของ เอกพจน์ รูปผันเจ้าของ พหูพจน์ ต้นเค้าคำนาม รูปผันเจ้าของ เอกพจน์ รูปผันเจ้าของ พหูพจน์
มนุสฺส
(มนุษย์)
มนุสฺสสฺส
(ของมนุษย์)
มนุสฺสานํ
(ของมนุษย์ทั้งหลาย)
ยาจก
(ขอทาน)
ยาจกสฺส
(ของขอทาน)
ยาจกานํ
(ของเหล่าขอทาน)
พฺราหฺมณ
(พราหมณ์)
พฺราหฺมณสฺส
(ของพราหมณ์)
พฺราหฺมณานํ
(ของเหล่าพราหมณ์)
รถ
(รถ)
รถสฺส
(ของรถ)
รถานํ
(ของรถทั้งหลาย)
กุมาร
(เด็กชาย)
กุมารสฺส
(ของเด็กชาย)
กุมารานํ
(ของพวกเด็กชาย)
อสฺส
(ม้า)
อสฺสสฺส
(ของม้า)
อสฺสานํ
(ของม้าทั้งหลาย)
ปุตฺต
(บุตร)
ปุตฺตสฺส
(ของบุตร)
ปุตฺตานํ
(ของบุตรทั้งหลาย)
โจร
(โจร)
โจรสฺส
(ของโจร)
โจรานํ
(ของเหล่าโจร)
คาม
(หมู่บ้าน)
คามสฺส
(ของหมู่บ้าน)
คามานํ
(ของหมู่บ้านทั้งหลาย)
สมณ
(พระสงฆ์)
สมณสฺส
(แห่งพระสงฆ์)
สมณานํ
(แห่งพระสงฆ์ทั้งหลาย)
รุกฺข
(ต้นไม้)
รุกฺขสฺส
(ของต้นไม้)
รุกฺขานํ
(ของต้นไม้ทั้งหลาย)
ปญฺฑิต
(ผู้ฉลาด)
ปญฺฑิตสฺส
(ของผู้ฉลาด)
ปญฺฑิตานํ
(ของผู้ฉลาดทั้งหลาย)

ภาษาบาลีจะวางเจ้าของไว้ข้างหน้าสิ่งที่เป็นของเจ้าของนั้น เพื่อให้เห็นภาพจะแสดงตัวอย่างดังนี้

นรสฺส ปุตฺโต
(narassa putto)
= บุตรของผู้ชาย (สังเกตทั้งประธานและเจ้าของเป็นเอกพจน์)
นรสฺส ปุตฺตา
(narassa puttā)
= บุตรทั้งหลายของผู้ชาย (สังเกตประธานเป็นพหูพจน์แต่เจ้าของเป็นเอกพจน์)
นรานํ ปุตฺตา
(narānaṃ puttā)
= บุตรทั้งหลายของผู้ชายทั้งหลาย (สังเกตทั้งประธานและเจ้าของเป็นพหูพจน์)

ตัวอย่างประโยค

[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
นรสฺส ปุตฺโต ภตฺตํ ยาจติ.
(Narassa putto bhattaṃ yācati.)
= บุตรของผู้ชายขอข้าว

แปลตามคำ: นรสฺส (ของผู้ชาย), ปุตฺโต (อันบุตร), ภตฺตํ (ซึ่งข้าว), ยาจติ (ขอ)

อธิบายไวยากรณ์: นร → นรสฺส (เจ้าของ เอกพจน์), ปุตฺต → ปุตฺโต (ประธาน เอกพจน์), ภตฺต → ภตฺตํ (กรรมตรง เอกพจน์), ยาจติ (กริยาผันตามประธานบุรุษที่สามเอกพจน์ กาลปัจจุบัน)

มาตุลสฺส สหายโก รถํ อาหรติ.
(Mātulassa sahāyako rathaṃ āharati.)
= เพื่อนของลุงนำรถมา

แปลตามคำ: มาตุลสฺส (ของลุง), สหายโก (อันเพื่อน), รถํ (ซึ่งรถ/พาหนะ), อาหรติ (นำมา, พามา)

อธิบายไวยากรณ์: มาตุล → มาตุลสฺส (เจ้าของ เอกพจน์); สหายก → สหายโก (ประธาน เอกพจน์); รถ → รถํ (กรรมตรง เอกพจน์); อาหรติ (กริยาผันตามประธานบุรุษที่สามเอกพจน์ กาลปัจจุบัน)

กสฺสกสฺส สูกโร ทีปํ ธาวติ.
(Kassakassa sūkaro dīpaṃ dhāvati.)
= หมูของชาวนาวิ่งไปยังเกาะ

แปลตามคำ: กสฺสกสฺส (ของชาวนา), สูกโร (อันสุกร), ทีปํ (ยังเกาะ, สู่เกาะ), ธาวติ (วิ่ง)

อธิบายไวยากรณ์: กสฺสก → กสฺสกสฺส (เจ้าของ เอกพจน์); สูกร → สูกโร (ประธาน เอกพจน์); ทีป → ทีปํ (กรรมตรง เอกพจน์ ในที่นี้ทำหน้าที่เป็นจุดหมายของการเคลื่อนที่); ธาวติ (กริยาผันตามประธานบุรุษที่สามเอกพจน์ กาลปัจจุบัน)


นรานํ ปุตฺตา ภตฺตํ ยาจนฺติ.
(Narānaṃ puttā bhattaṃ yācanti.)
= บุตรทั้งหลายของผู้ชายทั้งหลายขอข้าว

แปลตามคำ: นรานํ (ของผู้ชายทั้งหลาย), ปุตฺตา (อันบุตรทั้งหลาย), ภตฺตํ (ซึ่งข้าว), ยาจนฺติ (ขอ)

อธิบายไวยากรณ์: นร → นรานํ (เจ้าของ พหูพจน์), ปุตฺต → ปุตฺตา (ประธาน พหูพจน์), ภตฺต → ภตฺตํ (กรรมตรง เอกพจน์), ยาจติ → ยาจนฺติ (กริยาผันตามประธานบุรุษที่สามพหูพจน์ กาลปัจจุบัน)

มาตุลานํ สหายกา รเถ อาหรนฺติ.
(Mātulānaṃ sahāyakā rathe āharanti.)
= เหล่าเพื่อน ๆ ของลุงทั้งหลายนำรถทั้งหลายมา

แปลตามคำ: มาตุลานํ (ของลุงทั้งหลาย), สหายกา (อันเพื่อนทั้งหลาย), รเถ (ซึ่งรถทั้งหลาย), อาหรนฺติ (ขอ)

อธิบายไวยากรณ์: มาตุล → มาตุลานํ (เจ้าของ พหูพจน์); สหายก → สหายกา (ประธาน พหูพจน์); รถ → รเถ (กรรมตรง พหูพจน์); อาหรติ → อาหรนฺติ (กริยาผันตามประธานบุรุษที่สามพหูพจน์ กาลปัจจุบัน)

กสฺสกานํ สูกรา ทีเป ธาวนฺติ.
(Kassakānaṃ sūkarā dīpe dhāvanti.)
= พวกหมูของชาวนาทั้งหลายวิ่งไปยังหมู่เกาะ

แปลตามคำ: กสฺสกานํ (ของชาวนาทั้งหลาย), สูกรา (อันสุกรทั้งหลาย), ทีเป (ยังหมู่เกาะ, สู่หมู่เกาะ), ธาวนฺติ (วิ่ง)

อธิบายไวยากรณ์: กสฺสก → กสฺสกานํ (เจ้าของ พหูพจน์); สูกร → สูกรา (ประธาน พหูพจน์); ทีป → ทีเป (กรรมตรง พหูพจน์ ในที่นี้ทำหน้าที่เป็นจุดหมายของการเคลื่อนที่); ธาวติ → ธาวนฺติ (กริยาผันตามประธานบุรุษที่สามพหูพจน์ กาลปัจจุบัน)

จงแปลเป็นภาษาไทย

[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
  1. กสฺสกสฺส ปุตฺโต เวชฺชสฺส สหาเยน สทฺธึ อาคจฺฉติ
  2. พฺราหฺมณสฺส กุทฺทาโล หตฺถมฺหา ปตติ
  3. มิคา อาวาเฏหิ นิกฺขมนฺติ
  4. วาณิชานํ อสฺสา กสฺสกสฺส คามํ ธาวนฺติ
  5. มาตุลสฺส มิตฺโต ตถาคตสฺส สาวเก วนฺทติ
  6. อมจฺโจ ภูปาลสฺส ขคฺเคน สปฺปํ ปหรติ
  7. วาณิชา คาเม มนุสฺสานํ ปิฏเกหิ มจฺเฉ อาหรนฺติ
  8. โจโร เวชฺชสฺส สกเฏน มิตฺเตน สห คามมฺหา นิกฺขมติ
  9. อุปาสกสฺส ปุตฺตา สมเณหิ สห วิหารํ คจฺฉนฺติ
  10. ยาจโก อมจฺจสฺส สาฏกํ อิจฺฉติ
  11. มิตฺตานํ มาตุลา ตาปสานํ โอทนํ ททนฺติ
  12. ธีวรสฺส กกเจน โจโร กุกฺกุรํ ปหรติ
  13. ภูปาลสฺส ปุตฺโต อมจฺจสฺส อสฺสํ อารุหติ
  14. ปณฺฑิตสฺส ปุตฺตา พุทฺธสฺส สาวเกน สห วิหารํ ปวิสนฺติ
  15. สุริโย มนุเสฺส รกฺขติ
  16. เวชฺชสฺส สุนโข อาจริยสฺส โสปานมฺหา ปตติ
  17. รชกา รุกฺเขหิ โอรุหนฺติ
  18. ยาจกสฺส ทารกา โรทนฺติ
  19. ลุทฺทกสฺส ปุตฺตา โจรสฺส ทารเกหิ สทฺธึ กีฬนฺติ
  20. ตาปโส ตถาคตสฺส สาวกานํ โอทนํ ททาติ
  21. สมณา อาจริยสฺส หตฺเถน สาฏเก ลภนฺติ
  22. โจโร วาณิชสฺส สหายกสฺมา อสฺสํ ยาจติ
  23. อุปาสกา ตถาคตสฺส สาวเกหิ ปเญฺห ปุจฺฉนฺติ
  24. ปาสาณมฺหา มิโค ปตติ, ลุทฺทโก หสติ, สุนขา ธาวนฺติ
  25. เวชฺชสฺส ปตฺโต ปุตฺตสฺส หตฺถมฺหา ปตติ
  26. กุมาโร มาตุลานํ ปุตฺตานํ หตฺเถน โอทนํ ททาติ
  27. สรา ลุทฺทกสฺส หตฺเถหิ ปตนฺติ, มิคา ปพฺพตํ ธาวนฺติ
  28. ภูปาลสฺส ปุตฺโต อมจฺเจหิ สทฺธึ ปาสาทสฺมา โอรุหติ
  29. เวชฺชสฺส โสโณ กสฺสกสฺส สูกรํ ฑสติ
  30. ธีวโร มนุสฺสานํ มจฺเฉ อาหรติ, ลาภํ ลภติ
บทนำ - การอ่านออกเสียง
บทที่ 1 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ทำ รูปเอกพจน์และพหูพจน์, การผันกริยากาลปัจจุบันสำหรับประธานบุรุษที่ 3 เอกพจน์และพหูพจน์
บทที่ 2 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมตรง รูปเอกพจน์และพหูพจน์
บทที่ 3 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องทำ รูปเอกพจน์และพหูพจน์
บทที่ 4 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นต้นกำเนิด รูปเอกพจน์และพหูพจน์
บทที่ 5 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมรอง รูปเอกพจน์และพหูพจน์
บทที่ 6 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าของ รูปเอกพจน์และพหูพจน์
บทที่ 7 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นสถานที่ รูปเอกพจน์และพหูพจน์
บทที่ 8 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ ที่ทำหน้าที่เป็นคำร้องเรียก รูปเอกพจน์และพหูพจน์, การผันคำนามเพศกลางที่ลงท้ายด้วยเสียง อะ
บทที่ 9 - การสร้างคำนามจากกริยา
บทที่ 10 - การผันคำกริยาเพื่อไม่ให้ระบุกาล
บทที่ 11 - การผันคำกริยาเพื่อบอกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน, การผันคำนามเพศชายและเพศกลาง
บทที่ 12 - การผันคำกริยาในกาลปัจจุบัน และบอกความเป็นผู้กระทำ
บทที่ 13 - การผันคำกริยาในกาลปัจจุบัน และบอกความเป็นผู้กระทำ (ภาคต่อ)
บทที่ 14 - การผันคำกริยาเพื่อบอกกาลอนาคต
บทที่ 15 - การผันคำกริยาเพื่อบอกความเป็นไปได้และคำแนะนำ
บทที่ 16 - การผันคำกริยาเพื่อบอกคำสั่ง
บทที่ 17 - การผันคำกริยาเพื่อบอกกาลอดีต
บทที่ 18 - การผันคำนามเพศหญิงที่ลงท้ายด้วยเสียง อา
บทที่ 19 - การผันคำกริยาเพื่อบอกเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
บทที่ 20 - การผันคำนามเพศหญิงที่ลงท้ายด้วยเสียง อิ และ อี
บทที่ 21 - การผันคำกริยาเพื่อบอกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน (ภาคต่อ), การผันคำนามเพศหญิง
บทที่ 22 - การผันคำกริยาเพื่อบอกความเป็นผู้ถูกกระทำในกาลอนาคต
บทที่ 23 - การผันคำกริยาเพื่อบอกการไหว้วานหรือการบังคับ
บทที่ 24 - การผันคำนามเพศหญิงที่ลงท้ายด้วยเสียง อุ
บทที่ 25 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อิ
บทที่ 26 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อี
บทที่ 27 - การผันคำนามเพศชายที่ลงท้ายด้วยเสียง อุ และ อู
บทที่ 28 - การผันคำนามของผู้กระทำกริยา และคำนามที่บ่งบอกความสัมพันธ์ทางเครือญาติ
บทที่ 29 - การผันคำนามเพศกลางที่ลงท้ายด้วยเสียง อิ และ อุ
บทที่ 30 - การผันคำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย -วนฺตุ และ -มนฺตุ
บทที่ 31 - การผันคำสรรพนามบอกบุรุษ
บทที่ 32 - การผันคำสรรพนามบอกบุรุษ สรรพนามบอกความสัมพันธ์ สรรพนามบอกระยะ และสรรพนามบอกคำถาม
ภาคผนวก - รายการคำกริยาในภาษาบาลี, รายการคำที่นอกเหนือจากคำกริยาในภาษาบาลี